วันอังคารที่ 25 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันอังคารที่ 6 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555
วันพฤหัสบดีที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2555
เทคโนโลยีสมัยใหม่
เทคโนโลยีสมัยใหม่กับการศึกษาค้นคว้า
Google+ บริการใหม่ท้าชน Facebook
กรกฎาคม 26, 2011
Google+ บริการใหม่ท้าชน Facebook
รายงานข่าวล่าสุด กูเกิ้ล (Google) ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ที่มีรูปแบบของการใช้งานในลักษณะแบบเดียวกับสื่อสังคมออนไลน์ (Social network) โดยสามารถเชื่อมโยงกับเพื่อนๆ ได้หลากหลายรูปแบบทั้งข้อความ และวิดีโอ ตลอดจนการแชร์ข่าวสารที่น่าสนใจ ซึ่งแน่นอนว่า เป้าหมายของการเปิดให้บริการใหม่นี้ก็คือ การช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดผู้ใช้จาก เฟซบุ๊ค (Facebook) โซเชียลเน็ตเวิร์กที่ใหญ่ที่สุดในโลกนั่นเอง
อย่างไรก็ตาม แผนการใหม่ในการรุกเข้าสู่สมรภูมิโซเชียลเน็ตเวิร์กของ Google จะถูกสร้างขึ้นมาจากคุณสมบัติการใช้งานต่างๆ ที่แยกกันอยู่ 4 บริการด้วยกันได้แก่ Ciricles, Sparks, Hangout และ Huddle ทั้งนี้ Google พยายามย้ำว่า ผลิตภัณฑ์ใหม่ของทางบริษัทไม่ได้เป็นแค่การสร้างเครือข่ายโซเซียลเน็ตเวิร์กขึ้นมาใหม่อีกตัวหนึ่ง เพื่อต่อกรกับ Facebook แต่มันเป็นความพยายามที่จะรวมเอาองค์ประกอบของการใช้งานสังคมออนไลน์เข้าไปในผลิตภัณฑ์ของ Google ต่างหาก
ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ใหม่ทั้งหมดจะถูกรวมอยู่ในโปรเจ็กต์ที่เรียกว่า Google+ ก็จะมี Circles ซึ่งต้องถือว่า เป็นบริการทีมีความใกล้เคียง Facebook มากทีสุด โดยตัวบริการจะเปิดโอกาสให้ผู้ใข้สามารถย้ายคอนแท็คส์เข้าไปเก็บไว้ในกลุ่มต่างๆ (กูเกิ้ลเรียกว่า Circle) แยกกัน โดยเป้าหมายคือ ผู้ใช้จะสามารถแชร์เรื่องราว และสิ่งต่างๆ ระหว่างกลุ่มเพื่อนได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ ผู้ใช้ Google ยังสามารถเพิ่มคอนแท็คส์ หรือนำเข้า (import) จากบริการของ Yahoo และ Microsoft ได้อีกด้วย ซึ่งแน่นอนว่า บริการของ Facebook จะไม่อนุญาตให้สามารถส่งออก (export) ข้อมูลคอนแท็คส์ไปยัง Google ได้
สำหรับ Sparks จะเป็นบริการที่เปิดให้ผู้ใช้ที่ชื่นชอบการแชร์คอนเท็นต์บนเว็บ และการแนะนำคอนเท็นต์อื่นๆ ที่น่าสนใจ โดยใช้กลไกที่เรียกว่า “Sharing Engine” (คล้ายกับ search engine) ซึ่งบริการ Sparks จะฟีดคอนเท็นต์ที่แพร่กระจายได้ง่ายจากทั่วอินเทอร์เน็ตให้กับผู้ใช้ตามหัวข้อที่สนใจด้วยภาษาต่างๆ ถึง 40 ภาษา (เลือกได้ว่าจะเอาภาษาอะไรบ้าง?) เพียงแค่ผู้ใช้เพิ่มประเด็นที่สนใจให้บริการได้ทราบ หลังจากนั้น ผู้ใช้ก็จะได้รับคอนเท็นต์ที่น่าดู น่าอ่าน และน่าแชร์ตลอดเวลา
มาดูในส่วนของบริการที่ชื่อว่า Hangout กันบ้าง โดยผลิตภัณฑ์นี้จะเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ที่แชร์คอนเท็นต์กันภายในกลุ่มให้สามารถรับชมพร้อมกันได้ เช่น การเข้าไปเจอกันใน YouTube ได้พร้อมกันโดยไม่จำเป็นต้องอยู่ที่เดี่ยวกัน (สร้างประสบการณ์ร่วมในกลุ่มเพื่อน) และ Huddle บริการใหม่ตัวสุดท้าย จะเป็นแอพพลิเคชันเมสเสจจิ้งแบบกลุ่ม (group messaging) โดยบริการนี้จะเป็นการส่งเมสเสจเข้าไปยังกลุ่มเพื่อน เพื่อชักชวนทำสิ่งต่างๆ ร่วมกัน ยกตัวอย่างเช่น การนัดออกไปเจอกันตามที่ต่างๆ เป็นต้น
บริการใหม่ๆ ทั้งหมดนี้จะสามารถเรียกใช้งานผ่านทูลบาร์ใหม่ของ Google โดยมันจะทำให้ผู้ใช้สามารถแชร์สเตตัสตัวเองได้ทันทีทีต้องการ ลักษณะเดียวกันกับ Facebook นอกจากนี้ยังมีเวอร์ชันบน Mobile ที่มีทั้งบน Android และ iOS นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้แนะนำคุณสมบัติใหม่ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถอัพโหลดรูปภาพ และวิดีโอที่บันทึกอุปกรณ์แอนดรอยด์ได้ทันที หากผู้ใข้ต้องการให้มีการติดป้านตำแหน่ง (location tag) ในภาพที่อัพโหลดขึ้นไปก็สามารถทำได้อีกด้วย อย่างไรก็ดี คงต้องติดตามกันต่อไปว่า Google+ บริการใหม่ในรูปแบบของโซเชียลเน็ตเวิร์กจะไปได้ไกลแค่ไหน? เพราะมันคงไม่ง่ายนักที่จะเปลี่ยนใจผู้ใช้ที่คุ้นเคยกับ Facebook อยู่แล้ว จะหันมาใช้บริการเหล่านี้อีก และต้องถือว่า มันเป็นโจทย์ที่ยากมากสำหรับ Google ดังที่ได้เป็นข่าวถึงความพยายามต่างๆ ก่อนหน้านี้หลายครั้งหลายคราวแล้ว
วันอังคารที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2555
มารู้จักอาเซียนกันเถอะ
เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก flagspot.net , สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
ในสภาวะแห่งยุคทุนนิยม ที่เศรษฐกิจเป็นตัวขับเคลื่อนและผลักดันให้ประเทศต่าง ๆ ก้าวรุดไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ประกอบกับประเทศต่าง ๆ นั้นอยู่รวมกันเป็นสังคมโลก ไม่สามารถอยู่โดดเดี่ยวเดียวดายได้ จึงต้องมีการรวมตัวกันของประเทศในแต่ละภูมิภาคเพื่อเพิ่มอำนาจในการต่อรองและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันในเวทีระหว่างประเทศ เพื่อให้ได้มาซึ่งผลประโยชน์ร่วมและพัฒนาประเทศในภูมิภาคไปพร้อม ๆ กัน ด้วยเหตุนี้ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้หรือ อาเซียน จึงได้มีข้อตกลงให้อาเซียนรวมตัวเป็นชุมชนหรือประชาคมเดียวกันให้สำเร็จภายในปี พ.ศ. 2558 (ค.ศ. 2015)
แต่ก่อนที่เราจะมาดูเนื้อหาสาระของการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนนี้ เราจะมาย้อนดูกันรวมตัวกันของประเทศในอาเซียนว่ามีการรวมตัวกันได้อย่างไร จนมาเป็นอาเซียนในปัจจุบัน
โดยอาเซียนหรือ สมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN : The Association of South East Asian Nations) ได้ก่อตั้งเมื่อวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2510 โดยประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียน คือ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ ต่อมาในปีพ.ศ.2527 บรูไน ดารุสซาลาม ได้เข้ามาเป็นสมาชิก ตามด้วยเวียดนามเข้ามาเป็นสมาชิกเมื่อ พ.ศ. 2538 ขณะที่พม่าและลาวเข้ามาเป็นสมาชิกใน พ.ศ.2540 และประเทศสุดท้ายคือกัมพูชา เข้าเป็นสมาชิกอาเซียน เมื่อ พ.ศ. 2542 ปัจจุบันอาเซียนมีประเทศสมาชิกทั้งหมด
รู้จัก 10 ประเทศอาเซียน
1.บรูไนดารุสซาลาม (Brunei Darussalam)
ประเทศบรูไน มีชื่อเป็นทางการว่า "เนการาบรูไนดารุสซาลาม" มีเมือง "บันดาร์เสรีเบกาวัน" เป็นเมืองหลวง ถือเป็นประเทศที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก เพราะมีพื้นที่ประมาณ 5,765 ตารางกิโลเมตร ปกครองด้วยระบบสมบูรณาญาสิทธิราช โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข มีประชากร 381,371 คน (ข้อมูลปี พ.ศ.2550) โดยประชากรเกือบ 70% นับถือศาสนาอิสลาม และใช้ภาษามาเลย์เป็นภาษาราชการ
2.ราชอาณาจักรกัมพูชา (Kingdom of Cambodia)
เมืองหลวงคือ กรุงพนมเปญ เป็นประเทศที่มีอาณาเขตติดต่อกับประเทศไทยทางทิศเหนือ และทิศตะวันตก มีพื้นที่ 181,035 ตารางกิโลเมตร หรือขนาดประมาณ 1 ใน 3 ของประเทศไทย มีประชากร 14 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.2550) โดยประชากรกว่า 80% อาศัยอยู่ในชนบท 95% นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท ใช้ภาษาเขมรเป็นภาษาราชการ แต่ก็มีหลายคนที่พูดภาษาอังกฤษ ฝรั่งเศส และเวียดนามได
3.สาธารณรัฐอินโดนีเซีย (Republic of Indonesia)
เมืองหลวงคือ จาการ์ตา ถือเป็นประเทศหมู่เกาะขนาดใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีพื้นที่ 1,919,440 ตารางกิโลเมตร และมีประชากรมากถึง 240 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.2553) โดย 61% อาศัยอยู่บนเกาะชวา ส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลาม และใช้ภาษา Bahasa Indonesia เป็นภาษาราชการ
4.สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) (The Lao People's Democratic Republic of Lao PDR)
เมืองหลวงคือ เวียงจันทน์ ติดต่อกับประเทศไทยทางทิศตะวันตก โดยประเทศลาวมีพื้นที่ประมาณครึ่งหนึ่งของประเทศไทย คือ 236,800 ตารางกิโลเมตร พื้นที่กว่า 90% เป็นภูเขาและที่ราบสูง และไม่มีพื้นที่ส่วนใดติดทะเล ปัจจุบัน ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยม โดยมีประชากร 6.4 ล้านคน ใช้ภาษาลาวเป็นภาษาหลัก แต่ก็มีคนที่พูดภาษาไทย ภาษาอังกฤษ และภาษาฝรั่งเศสได้ ประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
5.ประเทศมาเลเซีย (Malaysia)
เมืองหลวงคือ กรุงกัวลาลัมเปอร์ เป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตศูนย์สูตร แบ่งเป็นมาเลเซียตะวันตกบคาบสมุทรมลายู และมาเลเซียตะวันออก ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียว ทั้งประเทศมีพื้นที่ 329,758 ตารางกิโลเมตร จำนวนประชากร 26.24 ล้านคน นับถือศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติ ใช้ภาษา Bahasa Melayu เป็นภาษาราชการ
6.สาธารณรัฐฟิลิปปินส์ (Republic of the Philippines)
เมืองหลวงคือ กรุงมะนิลา ประกอบด้วยเกาะขนาดต่าง ๆ รวม 7,107 เกาะ โดยมีพื้นที่ดิน 298.170 ตารางกิโลเมตร มีประชากร 92 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.2553) ส่วนใหญ่นับถือศาสนาคริสต์ และเป็นประเทศที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิกเป็นอันดับ 4 ของโลก มีการใช้ภาษาในประเทศมากถึง 170 ภาษา แต่ใช้ภาษาอังกฤษ และภาษาตากาลอก เป็นภาษาราชการ
7.สาธารณรัฐสิงคโปร์ (The Republic of Singapore)
เมืองหลวงคือ กรุงสิงคโปร์ ตั้งอยู่บนตำแหน่งยุทธศาสตร์ที่เป็นศูนย์กลางคมนาคมทางเรือของอาเซียน จึงเป็นประเทศที่มีการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจมากที่สุดในย่านนี้ แม้จะมีพื้นที่ราว 699 ตารางกิโลเมตรเท่านั้น มีประชากร 4.48 ล้านคน ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางการ แต่มีภาษามาเลย์เป็นภาษาประจำชาติ ปัจจุบันใช้การปกครองแบบสาธารณรัฐ (ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา มีสภาเดียว
8.ราชอาณาจักรไทย (Kingdom of Thailand)
เมืองหลวงคือกรุงเทพมหานคร มีพื้นที่ 513,115.02 ตารางกิโลเมตร ประกอบด้วย 77 จังหวัด มีประชากร 65.4 ล้านคน (ข้อมูลปี พ.ศ.2553) ส่วนใหญ่นับถือศาสนาพุทธ และใช้ภาษาไทยเป็นภาษาราชการ ปกครองด้วยระบอบประชาธิปไตย โดยมีพระมหากษัตริย์เป็นองค์ประมุขของประเทศ
9.สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม (The Socialist Republic of Vietnam)
เมืองหลวงคือ กรุงฮานอย มีพื้นที่ 331,689 ตารางกิโลเมตร จากการสำรวจถึงเมื่อปี พ.ศ.2553 มีประชากรประมาณ 88 ล้านคน ประมาณ 25% อาศัยอยู่ในเขตเมือง ส่วนใหญ่ร้อยละ 70 นับถือศาสนาพุทธนิกายมหายาน ที่เหลือนับถือศาสนาคริสต์ ปัจจุบัน ปกครองด้วยระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์
10.สหภาพพม่า (Union of Myanmar)
มีเมืองหลวงคือ เนปิดอว ติดต่อกับประเทศไทยทางทิศตะวันออก โดยทั้งประเทศมีพื้นที่ประมาณ 678,500 ตารางกิโลเมตร ประชากร 48 ล้านคน กว่า 90% นับถือศาสนาพุทธนิกายเถรวาท หรือหินยาน และใช้ภาษาพม่าเป็นภาษาราชการ
ตลอดระยะเวลา 44 ปีที่ผ่านมา อาเซียนได้เกิดความร่วมมือ รวมทั้งมีการวางกรอบความร่วมมือ เพื่อสร้างความเข็มแข็ง รวมถึงความมั่นคงของประเทศสมาชิกทั้งด้านความมั่นคงเศรษฐกิจ สังคมและวัฒนธรรม และในปี พ.ศ. 2558 อาเซียนได้วางแนวทางก้าวไปสู่ประชาคมอาเซียนอย่างสมบูรณ์ ภายใต้คำขวัญคือ "หนึ่งวิสัยทัศน์ หนึ่งเอกลักษณ์ หนึ่งประชาคม" (One Vision, One Identity, One Community) โดยมุ่งเน้นไปที่ 3 ประชาคม คือ ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน(ASEAN Political Security Community : APSC) ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC) และประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community : ASCC)
โดยเมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ.2552 ผู้นำอาเซียนได้ลงนามรับรองปฏิญญาชะอำ หัวหิน ว่าด้วยแผนงานจัดตั้งประชาคมอาเซียน (ค.ศ. 2009-2015) เพื่อจัดตั้งประชาคมอาเซียนภายในปี 2558 ซึ่งประชาคมอาเซียนประกอบด้วยเสาหลัก 3 เสา ดังต่อไปนี้
1.ประชาคมการเมืองและความมั่นคงอาเซียน (ASEAN Security Community – ASC) มุ่งให้ประเทศในภูมิภาคอยู่ร่วมกันอย่างสันติ มีระบบแก้ไขความขัดแย้ง ระหว่างกันได้ด้วยดี มีเสถียรภาพอย่างรอบด้าน มีกรอบความร่วมมือเพื่อรับมือกับภัยคุกคามความมั่นคงทั้งรูปแบบเดิมและรูปแบบใหม่ ๆ เพื่อให้ประชาชนมีความปลอดภัยและมั่นคง
2.ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (ASEAN Economic Community – AEC) มุ่งให้เกิดการรวมตัวกันทางเศรษฐกิจ และการอำนวยความสะดวกในการติดต่อค้าขายระหว่างกัน อันจะทำให้ภูมิภาคมีความเจริญมั่งคั่ง และสามารถแข่งขันกับภูมิภาคอื่น ๆ ได้เพื่อความอยู่ดีกินดีของประชาชนในประเทศอาเซียน โดย
มุ่งให้เกิดการไหลเวียนอย่างเสรีของ สินค้า บริการ การลงทุน เงินทุน การพัฒนาทางเศรษฐกิจ และการลดปัญหาความยากจนและความเหลื่อมล้ำทางสังคมภายในปี 2020
ทําให้อาเซียนเป็นตลาดและฐานการผลิตเดียว (single market and production base)
ให้ความช่วยเหลือแก่ประเทศสมาชิกใหม่ของอาเซียนเพื่อลดช่องว่างการพัฒนาและช่วยให้ประเทศเหล่านี้เข้าร่วมกระบวนการรวมตัวทางเศรษฐกิจของอาเซียน
ส่งเสริมความร่วมมือในนโยบายการเงินและเศรษฐกิจมหภาคตลาดการเงินและตลาดทุน การปะกันภัยและภาษีอากร การพัฒนาโครงสร้างพิ้นฐานและการคมนาคม พัฒนาความร่วมมือด้านกฎหมาย การเกษตร พลังงาน การท่องเที่ยว การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์โดยการยกระดับการศึกษาและการพัฒนาฝีมือแรงงาน
กลุ่มสินค้าและบริการนำร่องที่สำคัญ ที่จะเกิดการรวมกลุ่มกัน คือ สินค้าเกษตร / สินค้าประมง / ผลิตภัณฑ์ไม้ / ผลิตภัณฑ์ยาง / สิ่งทอ / ยานยนต์ /อิเล็กทรอนิกส์ / เทคโนโลยีสารสนเทศ (e-ASEAN) / การบริการด้านสุขภาพ, ท่องเที่ยวและการขนส่งทางอากาศ (การบิน) กำหนดให้ปี พ.ศ. 2558 เป็นปีที่เริ่มรวมตัวกันอย่างเป็นทางการ โดยผ่อนปรนให้กับประเทศ ลาว กัมพูชา พม่า และเวียตนาม สำหรับประเทศไทยได้รับมอบหมายให้ทำ Roadmap ทางด้านท่องเที่ยวและการขนส่งทางอากาศ (การบิน)
3.ประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน (ASEAN Socio-Cultural Community – ASCC) เพื่อให้ประชาชนแต่ละประเทศอาเซียนอยู่ร่วมกันภายใต้แนวคิดสังคมที่เอื้ออาทร มีสวัสดิการทางสังคมที่ดี และมีความมั่นคงทางสังคม
สำหรับการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประชาคมอาเซียนนั้น ประเทศไทยในฐานะที่เป็นผู้นำในการก่อตั้งสมาคมอาเซียน มีศักยภาพในการเป็นแกนนำในการสร้างประชาคมอาเซียนให้เข้มแข็ง จึงได้มีการเตรียมความพร้อมเพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประชาอาเซียน โดยจะมุ่งเน้นเรื่องการศึกษา ซึ่งจัดอยู่ในประชาคมสังคมและวัฒนธรรม ที่จะมีบทบาทสำคัญที่จะส่งเสริมให้ประชาคมด้านอื่น ๆ ให้มีความเข้มแข็ง เนื่องจากการศึกษาเป็นรากฐานของการพัฒนาในทุก ๆ ด้าน และจะมีการส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านอาเซียนศึกษา เป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านศาสนาและวัฒนธรรม เพื่อขับเคลื่อนประชาคมอาเซียนด้วยการศึกษา ด้วยการสร้างความเข้าใจในเรื่องเกี่ยวกับเพื่อนบ้านในกลุ่มประเทศอาเซียน ความแตกต่างทางด้านชาติพันธุ์ หลักสิทธิมนุษยชน ตลอดจนการส่งเสริมการเรียนการสอนภาษาต่างประเทศเพื่อพัฒนาการติดต่อสื่อสารระหว่างกันในประชาคมอาเซียน
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)